วิกฤตแกสแพง โอกาสทองของคนชนบท

หุงข้าวเตาถ่าน
คุณรู้ไหมว่า คนรุ่นก่อนๆ หุงข้าวทำอาหารเขาใช้ฟืนใช้ถ่านกัน ไม่มีใครใช้แกสเพราะไม่รู้จักและไม่มีให้ใช้  ฟืนก็หาไม่ยาก ออกไปเดินรอบๆ บ้านก็ได้เศษไม้มาทำฟืนทำถ่านเยอะแยะไปหมด เหลือเฟือเลยทีเดียว แต่เดี๋ยวนี้หรือครับ โลกเปลี่ยนไป ความคิดคนก็เปลี่ยนไป ไม่ต้องพูดถึงชาวเมืองที่มีพื้นที่แค่พอคุ้มหัวนอน แม้แต่ชาวสวนชาวไร่ก็หันไปหักร้างถางพงแล้วเปลี่ยนเป็นปลูกพืชเศรษฐกิจเชิงเดี่ยว ปลูกมันตะบี้ตะบันอย่างเดียว ที่เหลือทุกอย่างกะว่าค่อยซื้อเอา เพราะหวังว่าจะได้เงินเต็มเม็ดเต็มที่จากพืชหลักที่ทุ่มทั้งแรงกายและแรงใจไปสุดตัว ผลเป็นอย่างไรหรือครับ ก็ได้เพิ่มความสามัคคีในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพมากขึ้น เพราะต้องรวมตัวไปประท้วงกันบ่อยๆ ตามหน้าข่าวทั้งทีวีและสื่อต่างๆ แล้วผลเป็นอย่างไรบ้างครับ สุดท้ายก็ไม่ค่อยมีอะไรดีขึ้นจริงๆ ซักที ปีหน้าก็ต้องรวมตัวประท้วงกันใหม่เหมือนเดิม


วันนี้ดูข่าวชั่วโมงทำกิน ช่องไทยพีบีเอส ที่นำเสนอเรื่องราคาแกสที่ปรับขึ้น และมีวี่แววว่าจะได้ทานข้าวราดแกงจานละ 50 บาทในไม่เกินปลายปีนี้  ถึงประท้วงอย่างไรค่าแกสก็ต้องเพิ่มอยู่ดี ไม่วันนี้ก็วันหน้า เพราะของที่มีไม่พอต่อความต้องการ และอนาคตมันก็ต้องร่อยหรอแน่ๆ เป็นโชคร้ายของคนเมืองที่ต้องก้มหน้ารับสภาพไป ไม่ว่าแกสจะแพงขึ้นอีกเท่าไร คุณก็ไม่มีสิทธิเลือก แต่ถ้าคุณอยู่ชนบทแบบผม มีที่มีทางอยู่บ้างพอสมควร  เรื่องแกสแพงเป็นเรื่องกล้วยๆ มาก เพราะผมเองยังสามารถปลูกไม้โตเร็วทำฟืนทำถ่านได้ไม่ยาก แถมอนาคตมีไอเดียจะตั้งโรงงานทำเชื้อเพลิงหุงต้มแข่งกับ ปตท. ซะหน่อย โดยเฉพาะการปลูกไม้ไผ่ ไม้สารพัดประโยชน์ที่ใช้งานได้หลากหลายจริงๆ ผมปลูกไว้เล่นๆ 2 กอ เป็นไผ่หวาน ฝนตกมาไม่กี่วัน ไผ่แทงหน่อออกมาจนกินไม่ทัน ผมชอบไปเที่ยวในสวนบ่อยๆ  ว่างก็ตัดกิ่งไผ่แก่ๆ มาสุมทำฟืนต้มกาแฟกิน ฟืนต้นไผ่ดีมากเพราะไม่ค่อยมีควัน เสียแต่ไฟมอดเร็วไปหน่อยต้องเติมบ่อยๆ  แต่เป็นเชื้อเพลิง ฟรีๆ ที่ไม่ต้องซื้อ ถ้าใครมีไผ่มากๆ กิ่งที่รกๆ หรือแก่ๆ ก็ลองเอามาตัดทำฟืนดูซิครับ ใช้งานได้ดีทีเดียว หรือถ้าดัดแปลงเผาเป็นถ่านได้ก็ยิ่งดี  เคยได้ยินมาว่าพ่อครัวระดับเชฟภัตตาคารนิยมใช้ถ่านไม้ไผ่ทำอาหารมาก เพราะมีประโยชน์และข้อดีหลายอย่าง เห็นไหมครับ ถ้าใครมีหัวก้าวหน้า แกสมันราคาแพงมากนัก ก็ช่วยกันปลูกพืชที่สามารถใช้ทำฟืนหรือทำถ่านได้ ทำบรรจุหีบห่อสวยๆ ขายแข่งกับแกสของโรงงานในราคายุติธรรม ดูซิว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะที่สุดแล้วทุกบ้านก็ต้องใช้พลังงานหุงต้มอยู่ดี จะเปลี่ยนไปใช้ไฟฟ้า คุณรู้ไหมว่าค่าไฟแค่หุงข้าวให้สุกครั้งละกี่บาท เพราะหุงข้าวครั้งหนึ่งใช้ไฟฟ้ามากกว่า 1.5 ยูนิต เดี๋ยวนี้ถ้าคิดเป็นเงินก็มากกว่าครั้งละ 5 บาทแล้วละครับ

นอกจากนั้นชาวชนบท ใครที่เลี้ยงสัตว์ไม่ว่าหมู วัว ควาย ไก่ เป็ด ก็ยังสามารถนำมูลของมันมาทำแกสชีวภาพได้อีกด้วย ได้ประโยชน์หลายต่อทีเดียว นอกจากจะได้แกสเชื้อเพลิงแล้ว ยังช่วยลดกลิ่นของมูลสัตว์ได้เป็นอย่างดี สามารถนำมูลของมันมาทำปุ๋ยได้เร็วขึ้นกว่าการหมักปุ๋ยคอกตามธรรมชาติ ส่วนจะได้แกสมากน้อยพอใช้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับมูลสัตว์ที่มี

 จากวิกฤตแกสแพงและต้องแพงขึ้นอีกมากในอนาคต ซึ่งก็จะเป็นลูกโซ่พาให้สินค้าและบริการทุกอย่างแพงขึ้นเป็นเงาตามตัว  เราชาวชนบทบ้านนอกไม่รีบคว้าโอกาสปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นพลังงานบ้างหรือครับ ก่อนที่ความเดือดร้อนจะลุกลามไปมากกว่านี้
ข้อมูลโดย
ก้าวหน้าดอทคอม


ความคิดเห็น