หลังพายุร้ายพัดผ่าน ก็ยังมีสิ่งที่ดีๆ ที่ธรรมชาติให้มา
น้ำท่วมท่าชนะส่งท้ายปี56 ภาพจากคุณทรงยศ ร้านท่าชนะคอมพริ้นท์ |
ผมเองก็มีที่ดินอยู่ริมทะเลท่าชนะ ก็รู้สึกเสียวๆ อยู่เหมือนกันยามหน้ามรสุม และด้วยช่วงนี้เป็นเดือน 12 ใครๆ ก็รู้ว่าน้ำนองเต็มตลิ่ง แต่บ้านผมน้ำไม่ได้เต็มแค่ตลิ่งแต่เต็มทะเลหรือทะเลมีมวลน้ำสูงกว่าปกติ ฟ้าหลังฝนตกหนัก ลมแรงเพราะพายุเข้า ทะเลก็พัดพามวลขยะจำนวนมหาศาลถาโถมเข้าสู่ฝั่ง แต่พอไปดูใกล้ๆ มวลขยะที่คลื่นซัดเข้าสู่ฝั่งส่วนใหญ่จะเป็นเศษไม้ซะมากที่สุด มีขยะที่น่ารังเกียจน้อย แสดงว่าคนส่วนใหญ่เริ่มมีวัฒนธรรมหรือจิตใจสูงขึ้น ไม่ค่อยทิ้งขยะลงทะเลเฉกเช่นก่อนๆ หน้าโน้น
ก็ไม่รู้หรอกครับว่าเศษไม้เหล่านั้นทะเลจะพัดพาจากแหล่งใดมา แต่ในฐานะเจ้าของที่ดิน จะปล่อยให้ขยะวางเกลื่อนอยู่หน้าบ้านก็คงไม่ใช่ที่ ก็เลยต้องเก็บมาเผา กวาด และก็กวาด ทั้งที่ของเราเองและที่ข้างเคียง อย่างน้อยชายหาดก็จะได้กลับมาดูสะอาดตาสบายใจเหมือนเดิม ก็ต้องค่อยๆ กวาด ค่อยๆ เก็บไปเรื่อยๆ เพราะผมทำคนเดียว มีภรรยามานั่งให้กำลังใจใกล้ๆ เก็บไปเผาไป เห็นเศษไม้ท่อนใหญ่ๆ มากมาย ก็เลยเก็บเอาไว้ทำฟืนซะเลย เวลาเพื่อนๆ มาตั้งแคมป์ตกปลา จะได้มีฟืนก่อไฟให้แสงสว่างยามกลางคืนแถมหุงหาอาหารได้อีกด้วย เห็นไหมละครับทะเลไม่ได้ส่งขยะมาให้ผมซะหน่อย แต่ให้เชื้อเพลิงจำนวนมหาศาลให้เก็บเอาไว้ใช้โดยไม่ต้องซื้อ นี่ก็กะว่าจะเก็บกลับบ้านไปทำฟืนหุงข้าวแทนแกสที่แพงขึ้นทุกๆ เดือน ซะเลย คงประหยัดค่าแกสได้อีกโข
คงต้องขอบคุณทะเล ที่ให้ทั้งอาหารอันอุดมสมบูรณ์ทั้งกุ้งหอยปูปลาแล้ว ยังหอบหิ้วฟืนจำนวนมหาศาลมาให้ใช้อีกด้วย ธรรมชาติในวันโหดร้ายก็ยังมีมุมที่น่ารักๆ ซ่อนอยู่ เพียงแต่ว่าเราเห็นแล้วเราจะคิดและจินตนาการอย่างไร และที่ผมสบายใจมากที่สุดคือก่อนซื้อที่ดินติดทะเลแปลงนี้ได้สอบถามคนเฒ่าคนแก่ที่อาศัยอยู่ละแวกนี้ บอกว่าทะเลที่นี้ไม่เคยมีพายุพัดเข้ามาตรงๆ น้ำทะเลไม่เคยท่วมสูงพ้นแนวหาดขึ้นมาเลย น้ำก็ไม่เคยท่วม ถึงหน้าฤดูมรสุม ลมจะแรงซักหน่อยก็ไม่ได้รุนแรงมาก ผมเดาว่าคงเพราะมี 2 เกาะใหญ่นั่นก็คือเกาะสมุยและเกาะพะงันที่ช่วยบังทิศทางลมและคลื่นไว้ให้โดยบังเอิญ โดยทั้งเกาะสมุยและเกาะพะงันสามารถมองเห็นได้ชัดเจนในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสจากหน้าหาดของผมเลยทีเดียว
ข้อมูลโดย
ก้าวหน้าดอทคอม
ความคิดเห็น